“พร้อมเพย์” คือ บริการรับและโอนเงินแบบใหม่ ช่วยให้การรับเงินโอนและโอนเงินเป็นเรื่องง่าย เพียงใช้เลขประจำตัวประชาชน หรือเบอร์โทรศัพท์มือถือ แทนเลขที่บัญชีธนาคาร ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ต แบงก์กิ้ง โมบาย แบงก์กิ้ง เครื่องเอทีเอ็ม เป็นต้น ซึ่งมีวิธีการผูกบัญชีเงินฝากเข้ากับข้อมูลส่วนบุคคลได้หลายรูปแบบ โดยเฉพาะผู้ที่มีบัญชีหลายบัญชี ซึ่งเราสามารถผูกบัญชีเงินฝากได้สูงสุด 4 บัญชีจะธนาคารเดียวกันหรือต่างธนาคารก็ได้
แบบที่ 1 ใช้บัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือ ผูกกับบัญชีเงินฝาก 1 บัญชี แบบนี้เราสามารถใช้ทั้งเลขบัตรประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือในการโอนเงินได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีบัญชีเพียงบัญชีเดียวที่ใช้เป็นบัญชีหลัก เพราะสะดวกในการแจ้งข้อมูลในการใช้โอนเงิน
แบบที่ 2 ใช้บัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพท์มือถือมากกว่า 1 หมายเลขผูกกับบัญชีเงินฝาก 1 บัญชี สูงสุดได้ถึง 3 หมายเลข แบบนี้สามารถใช้ข้อมูลใดก็ได้สำหรับการโอนเงิน เช่น มีโทรศัพท์ไว้ติดต่อลูกค้าหลายเครื่อง เมื่อลูกค้าต้องการโอนเงินก็ให้โอนผ่านเลขโทรศัพท์เลขใดก็ได้ทั้ง 3 หมายเลข เพราะทุกบัญชีก็จะถูกโอนเข้าบัญชีเดียวกันหมด
แบบที่ 3 ใช้บัตรประชาชน ผูกกับบัญชี A และใช้หมายเลขโทรศัพท์ผูกกับบัญชี B โดยบัญชีที่ผูกกับโทรศัพท์สามารถผูกได้สูงสุด 3 หมายเลข โดยบัญชี A จะใช้สำหรับรับเงินจากรัฐบาล ส่วนบัญชี B สำหรับใช้ติดต่อธุรกิจ
แบบที่ 4 ใช้บัตรประชาชน ผูกกับบัญชี A หมายเลขโทรศัพท์ที่ 1 ผูกกับบัญชี B หมายเลขโทรพศัพท์ที่ 2 ผูกกับบัญชี B หมายเลขโทรศัพท์ที่ 3 ผูกกับบัญชี C และหมายเลขโทรศัพท์ที่ 4 ผูกกับบัญชี D โดยบัญชี A จะใช้สำหรับรับเงินสวัสดิการหรือติดต่อกับราชการ ส่วนบัญชี B ถึง D ใช้สำหรับทำธุรกรรมการค้าต่างๆ ได้
ข้อสังเกตุสำหรับบัญชีที่ใช้ผูกกับเลขบัตรประชาชน จะต้องเป็นเลขบัญชีหลักที่ใช้เพื่อรับสวัสดิการและผลประโยชน์ต่างๆ ที่ทางรัฐบาลจะจ่ายให้ เช่น การคืนภาษี เงินสงเคราะห์ เงินช่วยเหลือต่างๆ เป็นต้น