คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 อนุมัติหลักการมาตรการ “Easy E-Receipt 2.0” ซึ่งเป็นการขยายผลจากมาตรการเดิม “Easy e-Receipt” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในประเทศในปี 2568 โดยให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล) หักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง และสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท เฉพาะที่ได้รับ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt เท่านั้น
โดยผู้ซื้อสินค้าหรือค่าบริการในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 สามารถนำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์นำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท ดังนี้
1.1 หักลดหย่อนตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax invoice) แบบเต็มรูปเป็นหลักฐาน หรือผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการที่ไม่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยต้องมีใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เป็นหลักฐาน และ
1.2 หักลดหย่อนได้เพิ่มอีกตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 20,000 บาท สำหรับค่าซื้อสินค้า OTOP โดยต้องมี e-Tax Invoice แบบเต็มรูป หรือ e-Receipt เป็นหลักฐาน
ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการนี้ไม่รวมถึง
(1) ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์
(2) ค่าซื้อยาสูบ
(3) ค่าซื้อน้ำมัน ค่าซื้อก๊าซ และค่าบริการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับเติมยานพาหนะ
(4) ค่าซื้อรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ (รถจักรยานยนต์ รวมถึงรถจักรยานที่ติดเครื่องยนต์) และค่าซื้อเรือ
(5) ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ และ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
(6) ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าว นอกเหนือจากระยะเวลาของมาตรการ
(7) ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย
(8) ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว และค่าที่พัก โรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย หรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม
ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Tax Invoice มีกี่แบบ
การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ตามที่สรรพากรกำหนดไว้ จะมีอยู่ 2 รูปแบบ
- e-Tax Invoice By Time Stamp (หรือชื่อเดิมคือ e-Tax Invoice by e-Mail) เป็นบริการ “ฟรี” ของกรมสรรพกากร สำหรับกิจการที่มีรายได้ต่อปีไม่ควรเกิน 30 ล้านบาท และส่งไฟล์ใบกำกับภาษีตามรูปแบบที่สรรพากรกำหนดให้กับทาง ETDA เพื่อประทับรับรองเวลา
- e-Tax Invoice & e-Receipt ไม่จำกัดรายได้ โดยผู้ประกอบการต้องจัดหาใบรับรอง เพื่อลงรายมือชื่อดิจิทัล และนำส่งไฟล์ใบกำกับภาษีให้กับกรมสรรพากร โดยบริษัท บิซิเนส ซอฟต์ จำกัด มีให้บริการจัดหาใบรับรองฯ พร้อมติดตั้งในโปรแกรมเพื่อจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์จากโปรแกรม EASY-ACC V2 ได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่าน Service Provider
จะอัพเกรดเป็น EASY-ACC V2 เพื่อจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างไร
โปรแกรมระบบบัญชี EASY-ACC V2 นอกจากจะเพิ่มเติมการทำงานใหม่ๆ อาทิ การขยายความยาวของฟิลด์ต่างๆ เช่น รหัสสินค้า ชื่อ ที่อยู่, ระบบสินทรัพย์ถาวร, จัดทำรายงาน ภ.ง.ด.3/53 ฯลฯ (มีอะไรใหม่ใน EASY-ACC V2) ยังได้เพิ่มการจัดทำ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีให้เลือกทั้ง e-Tax Invoice by Time Stamp และ e-Tax Invoice & e-Receipt ครบถ้วน
สำหรับผู้ใช้งาน EASY-ACC เวอร์ชั่น 1.xx ต้องการอัพเกรดเป็น EASY-ACC V2 สามารถกรอกแบบฟอร์มอัพเกรดโปรแกรม โดยไม่ต้องส่งหลักฐานใดๆ มา (กรณีที่มีข้อมูลการลงทะเบียนกับบริษัทเรียบร้อยแล้ว) หรือหากไม่ทราบข้อมูลการลงทะเบียนของท่าน สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ทางไลน์ @businesssoft เพื่อตรวจสอบข้อมูลของท่านให้
อ้างอิง : https://rd.go.th/fileadmin/user_upload/news/2567thai/news5_2568.pdf