วิธีกำหนดส่วนประกอบของสินค้าและรวมสินค้าเป็นชนิดเดียว

สินค้าบางชนิดเกิดจากการนำส่วนประกอบต่าง ๆ มาประกอบเป็นสินค้าตัวใหม่ขึ้น หรือวัตถุดิบหลาย ๆ ตัว มาประกอบกัน อาทิเช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องประกอบไปด้วยอุปกรณ์หลายชนิดเข้าด้วยกัน ได้แก่ จอภาพ คีย์บอร์ด ดิสก์ไดรฟ์ เป็นต้น ซึ่งทำให้เมื่อมีการขายสินค้าออกไปค่อนข้างเสียเวลา เนื่องจากต้องตัดสต็อคสินค้าทีละตัวจนครบ โดยการกำหนดส่วนประกอบของสินค้านี้ จะช่วยให้การขายสินค้าเป็นไปอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเพียงอ้างถึงรหัสสินค้าหลักเพียงรหัสเดียว โปรแกรมจะตัดสต็อคสินค้าที่เป็นส่วนประกอบทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ซึ่งวิธีการกำหนดส่วนประกอบของสินค้าสามารถทำได้ดังนี้

1. ให้เข้าโปรแกรมสินค้าคงคลัง เลื่อนแถบแสงไปที่หัวข้อ "UPDATE" เลือกรายการ "เพิ่ม/แก้ไขแฟ้มสินค้า" ใส่รหัสสินค้าที่ต้องการกำหนดส่วนประกอบการขาย (ในกรณีที่เป็นรหัสสินค้าอันเกิดจากการประกอบของสินค้าสำเร็จรูป โดยตัวสินค้าหลักไม่ได้มีอยู่จริง ให้ท่านสร้างรหัสสินค้าใหม่ขึ้นมา)
   
   
   
   
2. จากนั้นให้คลิกที่ "ช้อมูล" หรือกด F3 เลื่อนไปที่แทปรายการ "กำหนดส่วนประกอบการขายของสินค้า"
   
    
   
   
3. ให้ใส่รหัสของสินค้า (หรือกด F1 เลือกรหัสสินค้า) และกำหนดจำนวนสินค้าที่จะนำมาเป็นส่วนประกอบการขายลงไป โดยสินค้าแต่ละชนิดสามารถกำหนดส่วนประกอบได้ไม่เกิน 15 รายการ
   
   
   
   
4. ก่อนจะนำรหัสสินค้าที่มีส่วนประกอบมาใช้งาน จะต้องทำการเพิ่มจำนวนสินค้าให้สินค้าหลักก่อน โดยไปที่ Edit>รายการบันทึกประจำวัน ให้เลือกประเภทรายการเป็น "ปรับปรุง" และบันทึกจำนวนตามที่ต้องการลงไป ที่สำคัญคือ ราคาต้นทุนจะต้องเป็น "ศูนย์" เท่านั้น เพราะสินค้าตัวหลักนั้นจะไม่มีอยู่จริง แต่เกิดจากการนำสินค้าหลายๆ ตัวมาประกอบเข้าด้วยกัน
   
   
   
5. เมื่อเรียกรหัสสินค้าที่มีส่วนประกอบมาบันทึกรายการ โปรแกรมจะตัดสต็อคส่วนประกอบของสินค้าตัวนี้ให้โดยอัตโนมัติตามจำนวนที่ได้กำหนดไว้